วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติ ( History )

   

ประวัติ ไซบี้ ( siberian history. )


  กว่า 1,000 ปีมาแล้ว ชนเผ่าหนึ่งซึ่งรู้จักกันในนามชาวชุคชิ ได้อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอาร์คติคทางตอนเหนือของไซบีเรีย ดินแดนที่มีแต่ฤดูหนาวอันทารุณ ทำให้ทุกชีวิตต้องเผชิญกับความท้าทายในแต่ละวันเพื่อการดำรงชีวิต มันคือที่ซึ่งสุนัขชุคชิ หรือบรรพบุรุษของสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ ในทุกวันนี้ถือกำเนิดมาจากการผสมพันธุ์หลายต่อหลายรุ่น ชาวชุคชิได้พัฒนาสายพันธุ์สุนัขที่ตรงตามความต้องการของพวกเขามากที่สุด ถึงแม้บ้านจริงๆของพวกเขาจะอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน แต่พรานชาวชุคชิก็ล่าสัตว์ตามชายฝั่งเป็นส่วนใหญ่โดยมีแมวน้ำคือแหล่งอาหารหลักของพวกเขา การล่าสัตว์ของพวกพรานไม่ใช่เรื่องยาก เช่นเดียวกับการหาสุนัขขนาดใหญ่ที่สามารถลากของหนักๆได้ พรานชาวชุคชิกลับต้องการสุนัขที่สามารถทนและอยู่ท่ามกลาอุณหภูมิต่ำ ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้เป็นเวลานานๆตลอดการเดินทาง และสุนัขที่ใช้พลังงานจำนวนน้อยที่สุดในการทำงานนั้นๆ เพราะยิ่งสุนัขใช้พลังงานในการทำงานน้อยลงเท่าไร มันก็ยิ่งมีเหลือไว้ใช้ป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็นมากขึ้นเท่านั้น


              สุนัขที่ตัวเล็กและปราดเปรียว ซึ่งว่าง่ายและฉลาดพอที่จะทำงานเป็นทีม ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพภูมิประเทศมากที่สุด พวกมันต้องเป็นแรงงานที่แข็งแรง กระตือรือร้น มีไหวพริบ และเอาใจใส่ต่อหน้าที่ที่ต้องอยู่นิ่งๆในแถวของเชือก ซึ่งล่ามไว้กับเลื่อน ชาวชุคชิให้ความสำคัญกับสุนัขของพวกเขามาก พวกเขามักจะพามันเข้าไปในบ้านด้วย เพื่อให้เป็นยามเฝ้าทรัพย์สิน หรือเป็นเพื่อนเล่นกับลูกๆของพวกเขา ไม่ต้องสงสัยเลย สิ่งนี้ก็สืบเนื่องมาจากความอ่อนโยนที่อยู่ในนิสัยของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้นั่นเอง

     ชะตากรรมของสุนัขชุคชิ และต้นกำเนิดของสายพันธุ์สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เกี่ยวพันกับ
ประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียในยุคแรกๆ 2-3 เหตุการณ์ ในคริสศตวรรษที่ 18 ชาวรัสเซียเชื้อสายคอสแซคเริ่มรุกรานเข้ามาในไซบีเรีย เพื่อยึดครองดินแดนและแหล่งล่าสัตว์ทั้งหมด ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบเหนือนี้ ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งไม่สามารถต่อกรกับอาวุธที่ทันสมัยของกองทัพรัสเซียได้ อย่างไรก็ตาม ชาวชุคชิสามารถเอาชนะได้หลายครั้ง เพราะสุนัขลากเลื่อนของพวกเขา ช่วยให้พวกเขาหนีรอดจากกองทัพที่แข็งแกร่งไปได้เสมอ ถึงแม้พวกเขาจะสู้ไม่ได้ แต่พวกเขาก็หนีได้อย่างรวดเร็ว


     ใกล้กับคริสศตวรรษที่ 19 สุนัขชุคชิถูกค้นพบโดยพ่อค้าชาวอะลาสก้า ซึ่งนำมันไปยังดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือและตั้งชื่อมันใหม่ว่า สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ซึ่งการนำมันไปในครั้งนั้น ต่อมาได้กลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการดำรงอยู่ของ สุนัขสายพันธุ์นี้ คำว่า "ฮัสกี (husky)" ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต (Inuit) ว่า "ฮัสกีส์ (huskies)" โดยคณะสำรวจคนขาว (Caucasian) คณะแรกๆที่มาถึงแผ่นดินของพวกเขา ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน (Siberian)" ได้มาจากไซบีเรียนั่นเองเนื่องจากความคิดที่ว่าสุนัขลากเลื่อนนี้ถูกใช้ในการข้ามสะพานแผ่นดินของช่องแคบเบอร์ริ่งที่เป็นทางเข้าสู่หรือออกจากรัฐอะแลสกา

    ไซบีเรียน ฮัสกี้ อาศัย อย่างสงบในไซบีเรีย เป็นเวลาหลายร้อยปี จนเมื่อศตวรรษที่ 19 สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ก็ถูกสั่งซื้อเข้าไปในสหรัฐอเมริกา และได้ถูกขนานนามว่าไซบีเรียน ฮัสกี้ ตราบจนถึงทุกวันนี้ โดยในช่วงแรกๆ สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ถูกสั่งซื้อเข้ามาเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาลากเลื่อนในรัฐอลาสก้า โดยทีกลากเลื่อนของไซบีเรียนฮักกี้ชุดแรกได้ปรากฏตัวในงานแข่ง All Alaska sweep stakes race of 1909 ทีมของไซบีเรียนฮัสกี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างงาม เพราะสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันระยะทาง 400 ไมล์ ทำให้ชื่อเสียงโดงดังมาก
  
ต่อมาในปี ค.ศ. 1925 ได้เกิดปัญหาโรคคอตีบระบาดในเมืองนอม (NOME) รัฐอลาสก้า บรรดาทีมนักแข่งเลื่อนทั้งหลายได้ถูกเรียกตัวเพื่อขอให้ไปช่วยขนยาเซรุ่มเพื่อมาช่วยรักษาคนที่ป่วยเป็นโรคระบาด  เนื่องจากถนนหนทางถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่สามารถใช้พาหนะอื่นในการขนส่งยาได้ และปรากฏว่าเลื่อนซึ่งลากโดยสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ของนายเลียวนาร์ด เชพพาล่า ก็สามารถลำเลียงเซรุ่มมาช่วยรักษาชาวเมืองนอมที่เป็นโรคระบาดได้ทันท่วงที ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อเสียงของหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ก็ลือกระฉ่อนไปทั่วทั้งอเมริกา

        เหตุการณ์นี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในปี ค.ศ. 1995 ที่ชื่อ"บอลโต (Balto)" ตามชื่อของสุนัขนำทีมของกันเนอร์ และเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัขนำทีมบอลโต มีการสร้างรูปหล่อเหมือนที่ทำจากทองแดง ตั้งอยู่ในเซ็นทรอล ปาร์คในรัฐนิวยอร์ก มีคำจารึกดังนี้


อุทิศแก่จิตวิญญาณที่ทรหดของสุนัขลากเลื่อนที่นำเชื้อต้านพิษบนทางยากลำบากเต็มไปด้วยน้ำแข็ง 600 ไมล์, ข้ามลำน้ำที่แข็งตัว, ฝ่าพายุหิมะของขั้วโลกเหนือจากเมื่องนีนนานาสู่เมืองนอมน์ที่รอความช่วยเหลือให้พ้นจากโรคร้ายในฤดูหนาวปี ค.ศ. 1925 อดทน--ซื่อสัตย์มีไหวพริบ    

    จนในปี ค.ศ. 1930 องค์กรสุนัขของ AKC ก็ได้ให้การรับรองสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนยฮัสกี้เข้าในทำเนียบสุนัขพันธุ์แท้ของโลก ต่อมาในนิวแฮมเชียร์ก็ปรากฏว่าสุนัขพันธุ์นี้จำนวนมากถูกส่งเข้าไปรับการฝึกอบรมในชมรม ชินูค (Chinook Kennel) เพื่อไว้ช่วยงานในหน่วยกู้ภัยในหิมะ นอกจากนี้ พวกเขายังถูกใช้ในราชการสมัยสงครามโลกครั้งที่ 


          โดยไซบีเรียนฮัสกี้ถูกจัดอยู่หน่วยค้นหาและกู้ภัยประจำกองทัพอากาศ Byrd Antarctic Expenditions ซึ่งนั่นก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นสุนัขที่มีความสามารถและมีความน่า   สนใจขนาดไหน ปัจจุบันไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังถูกใช้ลากเลื่อนอยู่บ้าง ในแถบ ประเทศที่มีอากาศ หนาวเย็น แต่คนส่วนใหญ่นิยมจะเลี้ยง เพื่อเป็นเพื่อนมากกว่า




      พฤติกรรมของไซบีเรียนฮัสกี้ถูกมองว่าเป็นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนัขบ้านนั่นก็คือหมาป่า มันแสดงออกในรูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้างๆ บ่อยครั้งที่ไม่ค่อยเห่า ออกจะไปทางหอนมากกว่าเห่า การแสดงออกที่มากเกินไปเกิดจากการถูกขับด้วยสัญชาตญาณในการล่า บุคลิกลักษณะของ สุนัข ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บ่อยครั้งที่เห็นได้ชัดในพฤติกรรมการละเล่นไล่จับสิ่งต่างๆ ในสิ่ง แวดล้อมที่สุนัขแสดงออกมาคล้ายกับสุนัขล่าเนื้อมากกว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง มันชอบวิ่งเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะจากประวัติการเพาะพันธุ์ในอเมริกาเหนือ












ขอบคุณแหล่งความรู้จาก

             http://th.wikipedia.org/wiki/
             http://www.thaidogcenter.com




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น